วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ผู้หญิงหากิน


“ กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ”
เสียงนาฬิกาปลุกทรงกลมขนาดเท่าฝ่ามือดังขึ้นจากหัวเตียงในห้องแคบสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีข้าวของเครื่องใช้เฟอ์นิเจอร์ไร้ความงามราคาถูกที่สุดเท่าที่เจ้าของห้องพอจะหาได้ถูกวางชิดผนังห้องสีขาว แสงไฟนีออลหลอดผอมเริ่มส่องแสงสว่างขึ้นจากการสัมผัสสวิตช์ของมือสวยขาว
วิไล หญิงสาวในชุดนอนเบาบาง ลุกขึ้นนั่งบนเตียงเก่า ๆ ขยี้ตา แล้วหาวออกมา ผมของเธอยุ่งเหยิงรอยยับบนที่นอนและร่องรอยแป้งขาวที่ปะหน้าก่อนนอน
“ กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ”
เสียงนาฬิกาปลุกยังคงดังอยู่
“ อะไรกันโว๊ย 2 ทุ่มแล้วเหรอว๊ะ ”
วิไลโวยวายคนเดียว แล้วกดสวิตช์ดับเสียงปลุกของเครื่องบอกเวลา เธอเดินลงจากเตียงคว้าผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่แขวนอยู่ข้างผนังห้อง พันกายทีไร้ชุดนอนเบาที่เธอใส่ก่อนหน้านี้ เธอรวบผมขมวดปมเหนือศรีษะแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ไป
สายน้ำไหลรินออกมาจากฝักบัวแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามการหมุนของวิไล กลิ่นสบู่เด็กหอมฟุ้ง ร่างกายของวิไลมีฟองขาวไปทั่วทั้งเรือนร่างก่อนจะล้างมันออกแล้วปิดน้ำให้หยุดไหลและเช็ดตัวพันกายด้วยผ้าขนหนูผืนเดิมที่เธอสวมใส่เมื่อตอนเข้าห้องน้ำ
หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งมีเครื่องสำอางราคาถูกวางระเกะระกะมากมายวิไลจัดการตกแต่งใบหน้าสวยของเธอด้วยเครื่องสำอางเหล่านั้น เริ่มด้วยทาแป้งรองพื้นไร้ยี่ห้อปกปิดริ้วรอยบางอย่าง จากนั้นเสริมแต่งด้วยสีสันหลากหลายสีจนใบหน้าเธอสวยตามความพอใจของเธอ
ภาพชายหญิงชราและเด็กชายหญิงรวมสี่คนถูกใส่อยู่ในกรอบวางอยู่บนชั้นวางเสื้อผ้า พวกเขาคือใคร ชายหญิงชราคือพ่อและแม่ของเธอส่วนเด็กทั้งสองคือลูกสาวและลูกชายของเธอนั้นเอง

วิไลหยิบชุดที่เธอคิดว่าสวยที่สุดเสื่อสายเดี่ยวเส้นเล็กบางถูกสวมใส่ปกปิดร่างกายส่วนบนของเธอแต่ใช่ว่าจะปิดได้ทุกส่วนมันเป็นความจงใจที่เธอต้องการให้เป็นอย่างนั้น
นาฬิกาปลุกอันเดิมแต่ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว เข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกายังคงเดินไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันหวนกลับมาเหมือนเดิม วิไล ต้องเดินทางเข้าทำมาหากินในเมืองหลวงเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วเธอทำงานทุกอย่างเพื่อที่จะได้เงินส่งให้พ่อแม่และลูก ๆ ของเธอได้มีกินเหมือนคนอื่นเขา แต่คนการศึกษาต่ำไม่รู้หนังสืออย่างเธอจะทำยังไงได้นอกจากอาชีพนี้
วิไล ลั่นกุญแจปิดห้องเช่าราคาถูกที่อยู่ในชุมชนสลัมในเมืองหลวง เธอเดินคนเดียวในซอยเพื่อออกมายืนรออะไรบางอย่างที่ป้ายรถเมล์ เปล่าเลยเธอไม่ได้รอรถเมล์ เธอไม่ได้รอแท็กซี่ แต่เธอรอสิ่งมีชีวิตมนุษย์เพศชายผู้ที่ต้องการบำบัดความใคร่ที่มันคั่งค้างอยู่ในหัวใจ ผู้ชายที่สามารถมีเงินแลกกับเรือนร่างของเธอ
“ น้องไปกับพี่เท่าไหร่ ”
เสียงลูกค้ารายแรกของคืนนี้
“ พี่ให้หนูเท่าไหร่ค่ะ ”
วิไลโต้ตอบไปอย่างน้อยเธอเองก็มีหัวทางธุรกิจอยู่บ้าง
“ 1500 ก็แล้วกัน ”
ชายผู้นั้นยิ้มอย่างพอใจ สายตาที่มองเธอเหมือนจะกลืนกินไปในตอนนั้น
“ 2000 นะพี่ ”
“ 2000 ก็ได้ ”
“ แต่พี่จะพาหนูไปที่ไหนหล่ะ ”
“ โรงแรมโน่นไง พี่ออกค่าโรงแรมเอง ”
ลูกค้าของเธอชี้ไปทางโรงแรมม่านรูดที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วทั้งสองก็เดินคลอเคลียไปกระทำการตามธุรกิจกามารมณ์ที่ตกลงกันไว้ วิไลเป็นโสเภณีเป็นผู้หญิงหากินเธอต้องการเพียงแค่เงินเท่านั้น และไม่อายที่ใครจะมองเธอหยามเหยียดอย่างไร เพราะเธอยอมรับว่าเธอเป็น ผู้หญิงหากิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น